Ubisoft เปิดเผยผ่านรายงานงบการเงินครั้งล่าสุดว่า Assassin’s Creed Valhalla คือเกมแรกที่ทำรายได้ทะลุ 1 พันล้านเหรียญฯ หรือประมาณ 32,000 ล้านบาท และเป็นเกมที่มีรายได้สูงที่สุดแล้วของบริษัทในตอนนี้
นับเป็นการประสบความสำเร็จครั้งสูงสุดของ Assassin’s Creed เลยทีเดียวตั้งแต่ที่ภาคแรกออกวางจำหน่ายมาในปี 2007 ซึ่งสำหรับภาค Valhalla ก็ไม่ได้มีแค่รายได้จากยอดขายเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงอุปกรณ์สวมใส่, ชุดต่าง ๆ ที่ต้องใช้เงินจริงซื้อ
นอกจากนี้ก็ยังมีภาคเสริมอย่าง Wrath of the Druids, The Siege of Paris และ Dawn of Ragnarok ที่กำลังจะวางจำหน่ายในเดือนมีนาคมนี้อีกด้วย
ปัจจุบันแฟรนไชส์ Assassin’s Creed ก็ยังคงดำเนินต่อไป โดยขณะนี้ Ubisoft ก็ยืนยันแล้วว่ากำลังพัฒนา Assassin’s Creed Infinity อยู่ ซึ่งเป็นเกมที่รวมเอาวัฒนธรรมจากหลายยุคสมัยมาไว้ด้วยกัน
อีกทั้งก็ยังมีข่าวลือแว่วมาว่ามี Assassin’s Creed อีกหนึ่งภาคด้วย ที่อาจจะมีฉากหลังอยู่ในกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก และไม่ได้เป็น Open-world RPG ที่มีขนาดใหญ่มากนักเหมือนกับภาคก่อน ๆ